อะไรที่โตเร็วเกินไปก็มักมีข้อเสีย อะไรที่โตช้าเกินไปก็มักจะเสียโอกาส การขาดความสอดคร้องของธุรกิจจึงทำให้คนเลี้ยงไก่ชนต้องหาทางออก โดยเฉพาะซุ้มฟาร์มที่มีการลงทุนสูงๆ เพื่อการค้าหรือหาผลกำไรจึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการขายและการผลิต เพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัยและเศรษฐกิจที่กำลังหมุนไปอย่างช้าๆ อยู่ในขณะนี้ ไก่ชนออนไลน์จึงนำเอาหลักสำคัญที่คนเลี้ยงไก่ชนควรทราปสำหรับการปรับตัวในปี 61 มาฝากกัน
(การผลิต) ธุรกิจลูกฟาร์ม ปฎิเสธไม่ได้ว่า "การเป็นลูกฟาร์ม” คือตัวเลือกที่ดีสำหรับคนเลี้ยงไก่ชน ต้องการมีรายได้แบบมั่นคงทุกเดือน เพียงแค่ทำลูกไก่ส่งคืนฟาร์มให้ได้อย่างสม่ำเสมอก็รับรายได้เข้ากระเป๋าแบบไม่ต้องหาตลาดให้วุ่นวาย ธุรกิจลูกฟาร์มปีที่แล้วจึงถือกำเนิดเติบโตเป็นดอกเห็ด ตามการเติบโตของตลาดไก่ชน แต่อะไรที่ทำง่ายจึงมักมีความเสี่ยงสูง การเป็นลูกฟาร์มไก่ชนใช่จะมีแต่ข้อดี วิธีนี้เจ้าของฟาร์มมักจะได้เปรียบลูกฟาร์มอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนการเลี้ยง ก่อนจะส่งลูกไก่หรือไก่หนุ่มคืนต้นฟาร์ม และยังมีความเสี่ยงทั้งเรื่องมาตรฐานคุณภาพสายพันธ์และเงินทุน โดยเฉพาะฟาร์มไก่ชนที่สายป่านไม่ได้ยาวมาก หรืองบการเงินไม่ได้สูงนักเมื่อขาดสภาพคร่องขึ้นมา การรับซื้อไก่ชนคืนจากลูกฟาร์มจะมีปัญหาทันที และลูกฟาร์มก็ไปต่อไม่ได้ ปัญหาการฟ้องร้องหรือทำผิดสัญญาของฟาร์มต่างๆ ก็อาจเกิดขึ้นตามมาได้ ฉะนั้นทั้งเจ้าของฟาร์มและคนที่คิดจะเป็นลูกฟาร์มจึงต้องคิดทบทวน และคำนึงถึงทั้งข้อดีและเสียกันให้รอบคอบ
(การขาย) ธุรกิจจะไปต่อได้ต้องพึงพาการขาย โดยเฉพาะปัจจุบันมีหลายซุ้มฟาร์มเริ่มใช้วิธีการขายไก่ชน ผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งเป็นหนึ่งวิธีทางเลือกสำหรับซุ้มฟาร์มขนาดใหญ่ ที่ต้องเปลี่ยนวิธีการขายเพื่อกำไรและความอยู่รอด เนื่องจากการแบกรับต้นทุนที่สูงในแต่ละเดือน การขายหน้าฟาร์มจึงไม่ทันต่อความต้องการของธุรกิจที่ต้องเติบโตและต้องการกำไรอีกต่อไป การเปิดรับคู่ค้าทางธุรกิจ หรือตัวแทนจำหน่ายจึงเป็นทางเลือก และทางออกที่น่าจับตามอง เพราะเหมือนมีทีมมดงานช่วยกันขาย แต่การจะเปิดรับตัวแทนจำหน่ายได้นั้น สิ่งสำคัญจะต้องมั่นใจด้วยว่าสายพันธ์ไก่ชนที่นำมาจำหน่ายเป็นที่ยอมรับและต้องการของผู้ซื้อด้วย การขายผ่านตัวแทนจำหน่ายถึงจะดำเนินไปได้ด้วยดี และตัวแทนจำหน่ายเองก็ต้องมีความน่าเชื่อถือด้วย การขายโดยวิธีการนี้ถึงจะได้ผล ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ไม่เด็จที่คนขายไก่ชนเริ่มเรียนรู้และปรับตัว เพื่อให้ธุรกิจไก่ชนเติบโต
(การตลาด) หลายปีที่ผ่านมาช่องทางการทำตลาด หรือเครื่องมือการโปรโมทของคนเลี้ยงไก่ชน หากเอ่ยถึงคงต้องเป็นนิตยสาร หรือแคทตาล๊อกแม็กกาซีนไก่ชน ที่มีอยู่หลายหัวตามแผงหนังสือ ให้เลือกอ่านเลือกดูกันหลากหลาย แต่ปัจจุบันเมื่อโลกอ่อนไลน์เข้ามามีบทบาท สือนิตยสารไก่ชนที่เคยได้รับความนิยมจึงได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การทำตลาดหรือโฆษณาทางอ่อนไลน์จึงตอบโจทย์ธุรกิจ และวัดผลได้มากกว่า ต่างจากเครื่องมือแบบเดิมๆ ที่วัดผลไม่ได้ 100% ทางออกของคนเลี้ยงไก่ชน และคนขายอุปกรณ์ หรืออาหารเสริมเกี่ยวกับไก่ชนจึงต้องปรับตัวตามยุคสังคมออนไลน์ให้ทัน และรู้จักใช้สื่ออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ เพราะสื่อออนไลน์ถือว่ามีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในยุค 4.0 เป็นอย่างมาก
(การขนส่ง) ปีนี้การจัดส่งไก่ชนมีการขยับ ปรับราคาการขนส่งไก่ชนกันใหม่หลายเจ้า ส่วนนึงก็คงเพราะพื้นที่การจัดส่งที่มีความยากง่ายไม่เท่ากัน หรือมีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงขึ้น การปรับราคาการจัดส่งใหม่ จึงอาจส่งผลกระทบต่อตลาดไก่ชนอยู่พอสมควร คนเลี้ยงไก่ชนหรือซุ้มฟาร์มจึงต้องคิดคำนวนในส่วนนี้ด้วย แม้ว่าการขนส่งจะเป็นภาระของผู้ซื้อเพียงฝ่ายเดียวแต่ก็มีส่วนกระทบกับยอดการสั่งซื้อของคนขายได้เช่นกัน หากผู้ซื้อมีงบประมาณจำกัด การวางแผนและรู้จักต้นทุนการจัดส่งก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
(โรคระบาด) ปีที่แล้วโรคระบาดถือว่ากระทบกับธุรกิจไก่ชนเป็นอย่างมาก หลายซุ้มฟาร์มต้องปิดหรือประกาศงดการจำหน่าย งดเคลื่อนย้ายจัดส่งกันหลายเดือน หนักสุดก็คือตายยกเล้ายกฟาร์ม กระทบกันเป็นบริเวณกว้างหลายพื้นที่ ปีนี้สำหรับผู้เลี้ยงไก่ชน จึงไม่ควรมองข้ามเรื่องของโรคระบาดเป็นอันขาด และควรวางแนวทางป้องกันเอาไว้แต่เนิ่น โดยเฉพาะการฉีดวัคซีน หรือทำความสะอาดคอกฟาร์ม ควรทำอยู่เสมอ และหมั่นทำความสะอาดคอก ฟาร์ม หรือทำโรงเรือนแบบระบบปิด เพื่อป้องกันโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นและสร้างความเสียหายแก่ไก่ชนในภายหน้าได้
สรุป สำหรับแนวทางการเลี้ยงไก่ชนในปี 61 การปรับตัวให้ทันต่อโลกที่กำลังหมุนไปคือสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการใช้สื่อสังคมออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ ทั้งการตลาด การขาย เน้นพัฒนาสายพันธ์ให้ไก่ชนมีคุณภาพ รักษาคุณภาพหลังการขาย จึงจะเพิ่มโอกาสสำเร็จ โชคดีมีไก่เก่งกันทุกคนครับ
ข้อมูล : โชคสันติฟาร์ม