เมื่อหลายปีก่อนมีการระบาดของเชื้อไข้หวัดนกในประเทศไทยรุนแรง ส่งผลกระทบโดยรวมของประเทศโดยเฉพาะธุรกิจการส่งออกไก่เนื้อไปยังต่างประเทศ จนมีเสียงเรียกร้องในเวลานั้นให้มีการนำเข้าวัคซีนไข้หวัดนกจากประเทศจีนเข้ามาใช้ในประเทศไทย แต่กรมปศุสัตว์ไม่ยินยอม เพราะคิดว่าไม่คุ้ม จะเสียมากกว่าได้...ไก่ชนออนไลน์จึงขอนำเอาภาษาแบบวิชาการมาอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นกับวัคซีนไข้หวัดนกกันอีกรอบ

วัคซีน (อังกฤษ: vaccine) เป็นสารที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้สามารถป้องกันจากอาการติดเชื้อเฉพาะอย่างได้ วัคซีนบางชนิดผลิตจากแบคทีเรียหรือไวรัสที่ถูกทำให้หมดฤทธิ์แล้ว หรือทำจากสารพิษที่ถูกทำให้หมดความเป็นพิษแล้ว บางชนิดผลิตจากการนำส่วนที่ก่อโรคของเชื้อจุลชีพมาเพียงบางส่วน สร้างโดยการสังเคราะห์จากเทคโนโลยีชีวภาพ วัคซีนไม่ใช่ยาวิเศษ มันคือสารกระตุ้นให้เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคเป้าหมายดังนั้น จึงใช้ได้เฉพาะกับสัตว์ที่ไม่ป่วยโรคนั้น เป็นมาตราการป้องกัน ไม่ใช่รักษาและด้วยเหตุที่มัน สร้างจากเชื้อที่ออ่นแรงลงจึงมีโอกาสที่จะกลายพันธ์ได้
การนำวัคซีนจากต่างประเทศเข้ามาใช้ในประเทศไทย ส่งผลเสียมากกว่าได้ นั้นก็เพราะว่า วัคซีนที่จะใช้ได้ผลจะต้องทำมาจากเชื้อไข้หวัดนกที่เหมือนกับเชื้อในท้องถิ่น 97% และสามารถฉีดป้องกันโรคระบาดได้เพียงแค่ครั้งเดียว ครั้งต่อไปก็จะต้องทำวัคซีนใหม่เพราะเชื้อกลายพันธ์ต่างจากเดิมออกไป และการทำวัคซีนจะต้องใช้ไข่ที่ปรอดเชื้อจริงๆ ซึ่งมีราคาสูงกว่าไข่ทั่วไปฟองละ 50-100 บาท ไม่สามารถใช้ไข่ที่เรากินทั่วไปฟองละ 3-5 บาท ฉะนั้นหากเรานำวัคซีนเข้ามาใช้ก็ไม่รู้ว่ามาตรฐานของวัคซีนที่ทำมาจะใช้ได้ผลคุ้ม หรือทำให้เชื้อไข้หวัดนกกลายพันธ์รึเปล่า
เหตุผลอีกอย่างที่ไม่ควรนำวัคซีนไข้หวัดนกมาใช้ เพราะไก่ที่ฉีดวัคซีนเข้าไปแล้วเชื้อไข้หวัดนกก็จะยังอยู่ในตัวไก่ แม้ว่าไก่จะหายจากโรคที่ป่วย แต่เชื้อไข้หวัดนกก็ยังคงอยู่ในตัวไก่ ไม่ได้แสดงผลออกมาให้เห็นเท่านั้น ทำให้คนที่ไปสัมผัสกับตัวไก่โดยตรงเพราะคิดว่าไม่มีเชื้อไข้หวัดนกโดยไม่ระวังโดยเฉพาะคนเลี้ยงไก่ชนที่ต้องสัมผัสกับไก่อยู่เป็นประจำ หากไก่แสดงอาการป่วยออกมาเชื่ออาจติดต่อมาสู่คนได้ โดยเฉาะหากกลายพันธ์ เชื้อไข้หวัดนกที่ทำให้คนเสียชีวิตได้ คือ ไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9
สำหรับการใช้วัคซีนไข้หวัดนกในหลายๆ ประเทศพบว่า หากใช้เฉพาะวัคซีนเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถที่จะป้องกันการเกิดโรคได้ จะต้องมีการจัดการระบบฟาร์มการเลี้ยงควบคู่กันด้วยการทำวัคซีนถึงจะได้ผล เพราะมีตัวอย่างการใช้วัคซีนในหลายๆ ประเทศ ทั้ง สหรัฐฯ จีน แม็กซิโก ฮ่องกง ซึ่งประเทศเหล่านี้ก็มีขอระวังในการใช้วัคซีนเหมือนกันคือจะใช้เฉพาะพื้นที่เฝ้าระวัง หรือเคยเกิดโรคระบาดแล้วเท่านั้น

ผลสรุปของการนำวัคซีนไข้หวัดนกเข้ามาใช้ในประเทศไทย จะส่งผลเสียมากกว่าที่จะเป็นผลดี ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แต่จากการหารือระหว่างนักวิชาการสัตวแพทย์ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาการนำวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดนกมาใช้ในการเลี้ยงสัตว์ปีกของประเทศไทย รวมทั้งในหมู่ผู้เลี้ยงไก่ ไก่ชนหรือนกที่มีราคาแพงเพื่อความเพลิดเพลินส่วนตัว จากเหตุผลในเชิงลึกที่ศึกษาเชื้อที่ระบาดในประเทศไทย โดยเฉพาะการป้องกันการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสไข้หวัดนก จนอาจนำไปสู่การเกิดการระบาดใหญ่ (pandemic) ของโรคไข้หวัดนก เห็นว่าไม่สมควรให้ใช้วัคซีน แต่เห็นว่าต้องให้มีแผนการศึกษาความเป็นไปได้ของการใช้วัคซีนและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยกำหนดพื้นที่การศึกษาและเงื่อนไขในการศึกษาให้ชัดเจน ซึ่งผลที่ได้จากการศึกษานี้จะนำมาประกอบการตัดสินใจในการควบคุมและกำจัดโรคต่อไป