รัฐบาลเห็นชอบมาตรการลดอุบัติเหตุเล่นสาดน้ำท้ายรถกระบะในชุมชนได้ แต่ห้ามนั่งท้้ายกระบะกลับบ้าน
รัฐบาลเห็นชอบมาตรการลดอุบัติเหตุเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ยืนยันเล่นสาดน้ำท้ายรถกระบะในชุมชนได้ แต่ห้ามนั่งท้้ายกระบะกลับบ้าน ส่วนกิจกรรมและมหรสพขอความร่วมมืออย่าจัดรื่นเริงเกินเหตุ ข้อห้ามในการเล่นสงกรานต์ปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 ถึงวันที่ 18 เมษายน ที่ประชาชนต้องปฏิบัติตาม ประกอบด้วย ห้ามนั่งหลังรถกระบะ -บนถนนสายหลัก ห้ามขับรถเร็วเกินกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับหรือโดยสารรถ โดยไม่โดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เมาแล้วขับ อายุต่ำกว่า20 ปีห้ามดื่มสุราเกิน 20 มิลลิกรัม ห้ามจัดกิจกรรมรื่นเริงเกินเหตุ
นอกจากนี้ยังขอร่วมมือภายใต้มาตรการ 5 ป. ได้แก่ ปลอดปืนฉีดน้ำขนาดใหญ่ ปลอดแอลกอฮอล์ ปลอดโป๊-เปลือย ปลอดแป้ง และประหยัดน้ำ รวมทั้งไม่ฉวยโอกาสลวนลามผู้อื่นจากการเล่นสงกรานต์ด้วย ส่วนสิ่งที่สามารถทำได้ เล่นน้ำท้ายรถกระบะ ในเขตชุมชน และในสถานที่ทางจังหวัดได้จัดเตรียมไว้ จัดกิจกรรมรื่นเริงอย่างเหมาะสม เล่นสงกรานต์ตามประเพณีท้องถิ่น
พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา และกำชับให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยแบ่งโซนให้ บนถนนสายหลัก เป็นความรับผิดชอบของตำรวจและกรมการขนส่ง ส่วนถนนสายรองจะให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นดูแล พร้อมทั้งจะรณรงค์ให้ประชาชนใช้รถอย่างมีวินัย ไม่ประมาท ไม่ดื่มสุรา ทำตามกฎหมาย เชื่อว่าจะช่วยลดอุบัติเหตุได้
พร้อมกล่าวถึงกระแสสังคมที่ออกมาคัดค้านมาตรการห้ามนั่งกระบะท้ายรถปิกอัพ โดยยืนยันว่า การนั่งท้ายกระบะรถเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอยู่แล้ว อยากให้ทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยมากกว่าความสะดวก ส่วนข้อเสนอของกระทรวงกลาโหมที่เสนอให้กิจกรรมสงกรานต์เลิกในเวลา 24 นาฬิกา เรื่องนี้ฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้ดูแล ส่วนกิจกรรมรื่นเริงที่เกินเหตุอาจจะต้องช่วยกันรณรงค์ให้งดไปเลย
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพ่ิมการขนส่งสาธารณะทุกระบบ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน ตั้งแต่วันที่ 5 -18 เมษายนนี้ จำนวน 5แสน2หมื่น1พัน9ร้อย96 เที่ยว คาดว่าสามารถรองรับประชาชนที่เดินทางไป-กลับ ได้ประมาณ 35 ล้าน 6 แสน 2 หมื่น 4 พัน 4 ร้อยคนต่อเที่ยว เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านร้อยละ 75.40
รวมทั้งยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 7 กรุงเทพ-ชลบุรี หมายเลข 9 วงแหวนรอบนอกบางประอิน - บางพลี ทางพิเศษบูรภาวิถี บางนา - ชลบุรี และทางเชื่อมต่อทางพิเศษกาณจนาภิเษก บางพลี - สุขสวัสดิ์ ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน ถึง 24 นาฬิกา ของวันที่ 18 เมษายน เป็นต้นไป
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/clip/115927#cxrecs_s