น้าแอ๊ด พร้อมตัวแทนสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาไก่พื้นเมืองไทย เดินหน้ายื่นเรื่องขอเสนอแก้ไขระเบียบการชนไก่ พร้อมชีแจ้งความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ชน แก่ ท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใน 3 ประเด็นหลัก คือ เรื่องของเวลาในการชน. เรื่องของการส่งออกไก่ชน และเรื่องการขอเปลี่ยนกฎกระทรวงบางอย่างเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะที่เป็นจริงในปัจจุบัน (adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({}); ปัจจุบันมีพลเมืองเพิ่มมากขึ้น การกีฬประเภทนี้ ถึงเวลามันก็ต้องขยายตัว เรื่องเวลา เรื่องจำนวนสังเวียน เรื่องการอนุญาต วันนี้สมาคมอนุรักษ์และพัฒนาไก่พื้นเมืองไทย และตัวแทนชาวไก่ชนก็เลยมาประชุมกันนะครับ และจะนำข้อสรุปเข้าไปนำเรียนแก่ท่าน ท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินการต่อไป อันนี้จะเป็นซอฟต์พาวเวอร์อันนึงที่รัฐบาลก็สนับสนุนเรื่องแบบนี้นะครับ การยื่นเรื่องขอแก้ไขระเบียบครั้งนี้ ไม่ได้มุ่งในเรื่องของการพนัน แต่เป็นการมุ่งเน้นเพื่อต้องการให้เกษตรกรผู้เป็นรากหญ้าของไทย ได้มีโอกาส ลืมตาอ้าปาก เพราะสนามชนไก่ก็เปรียบเสมือนกับตลาดหุ้นตลาดหลักทรัพย์ของคนรวย แต่กษตรกรเค้ามีแค่สนามชนไก่เท่านั้น ที่จะเป็นมูลค่าเพิ่มให้กับพวกเค้าได้ ถ้าเกิดว่าเค้าเลี้ยงไก่ไว้เพาะไก่ไว้ในบ้าน บางตัวที่มันก่งขึ้นมาเค้าอาจจะขายได้ตัวเป็นหมื่นป็นแสนเป็นล้านเนี่ยมันทำให้ชีวิตเค้าดีขึ้นนะครับ ก็ไม่เป็นภาระรัฐบาลที่จะต้องไปดูแลอุ้มชูเค้านะครับ แล้วก็เรื่องของการส่งออกไก่ชนด้วย มี 3-4 ประเทศที่เป็นลูกค้าเราแต่เรายังส่งออกไก่ชนไม่ได้ก็อาจจะต้องฝากรัฐบาลจัดหน่วยงานที่จะไปเจรจาเป็นประทศ อย่างตลาดใหญ่ของเราคืออินโดนีเชีย คือทางนู้นเค้าก็พร้อมแล้วล่ะ แต่ทางเราจะส่งคนไปคุยยังไงจะแลกเปลี่ยนกันยังไงนะครับเพื่อให้ผู้ส่งออกสามารถดำเนินการได้ ตรงนี้เป็นธุรกิจหลายพันล้าน แล้วก็ธุรกิจของการชนไก่สร้างมูลค่าเป็นหมื่นล้านนะครับ เพราะฉะนั้นมันช่วยเกษตรกรรากหญ้าได้เยอะมาก เป้าหมายต่อไปคือบ่อนป่าจะต้องไม่มี เพราะส่งผลกระทบกับสนามชนไก่ที่ถูกกฏหมาย ส่วนหนึ่งก็เกิดจากการไปตกลงกันเองกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นหรือฝ่ายปกครองในการขอจัดชนสนามบ่อนป่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย สนามชนไก่ที่ถูกต้องควรจะได้รับการคุ้มครอง
จับแล้ว มือยิงกลาง สนามไก่ชน จ.ปทุมธานี ชาวบ้านวิ่งหนีตายวุ่น เสียชีวิต 1 ราย เปิดปมสลด เผยนาทีระทึก ไก่กำลังตียก 2 เดิมพันราคา 200,000 บาท จากกรณีเกิดเหตุยิงกันในบริเวณสนามไก่ชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลปทุมธานี ทราบชื่อคือ นายกฤษฎา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ชาว จ.นนทบุรี สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .357 บริเวณใต้ราวนมซ้าย 1 นัด ส่วนผู้ก่อเหตุถูกควบคุมตัวเอาไว้ได้ทราบชื่อคือ นายธนวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี พร้อมอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 3 นัด ปลอกกระสุนปืนขนาด .357 จำนวน 3 ปลอก > (adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({}); ล่าสุดวันที่ 28 พ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุพบ นายสังวาล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 74 ปี ได้พาไปดูสนามชนไก่เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ที่ประตูทางเข้ามีภาพแสดงห้ามนำอาวุธเข้าสนาม และมีกล้องวงจรปิด ซึ่งสนามแห่งนี้มี 15 สังเวียน ส่วนสังเวียนที่เกิดเหตุเป็นสังเวียนที่ 1 กำลังชนไก่คู่บัวทองคำ กับ ส.อุดมทรัพย์ เดิมพันราคา 200,000 บาท ซึ่งในสังเวียนยังมีคราบเลือดหยดเป็นจำนวนมาก โดย นายสังวาล เปิดเผยว่า ที่แห่งนี้ตนเองให้คนเช่าเดือนละ 30,000 บาทสัญญาปีต่อปี มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตนก็กลัวว่าจะถูกปิดเช่นกัน ส่วนที่มีเหตุยิงกันตนไม่รู้อะไรมากนัก เพราะตนเลี้ยงไก่อยู่อีกที่หนึ่ง ซึ่งเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็มีคนเข้ามาในสนาม 500-600 คน ด้าน นายภกร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี คนเช่าสนาม กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นไปตามคลิป ซึ่งเราเป็นเพียงคนจัดแข่งเท่านั้น ส่วนเขาจะมีเรื่องอะไรกันมาก่อนเราไม่ทราบ ระหว่างเกิดเหตุคนก่อเหตุนั่งกันที่ชั้นล่างของสังเวียนซึ่งมี 3 ชั้น ทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตเขามีความขัดแย้งอะไรกันมาก่อน ส่วนตนอยู่ในกระจก ซึ่งไก่กำลังตียกที่ 2 มีคนดูประมาณ 100 คน มันเสี้ยววินาที นายภกร กล่าวต่อว่า ตนรู้จักกับทั้งสองคน ไม่ทราบว่าเหตุการณ์มันจะจบลงแบบนี้ ซึ่งการเข้าสนามมีการตรวจค้นอาวุธกันอยู่แล้ว ทั้งสองคนนั่งห่างกัน 4-5 เมตร ไก่ทั้งคู่ที่ตีกันตีข้างละ 100,000 บาท เมื่อเกิดเหตุแล้วทางสนามก็เอาคนเจ็บส่งโรงพยาบาลและก็อยู่ด้วยกับคนเจ็บตลอด ส่วนสาเหตุจริง ๆ อยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้าน พ.ต.อ.ณรงค์ เอี่ยมระหงษ์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่จับกุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้แล้ว ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากการต่อราคาของไก่และเกิดหมั่นไส้กัน ซึ่ง ร.ต.อ.ตูชัย สุระเสียง ร้อยเวรสอบสวน ได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
หนุ่มไอเดียเจ๋ง! ผลิต “กล่องไก่ชนฟองน้ำ” หลากสีสันขายเจ้าแรก หนุ่มบุรีรัมย์ไอเดียเจ๋ง ผลิตกล่องไก่ชนฟองน้ำหลากหลายสีสันขายแบรนด์ตัวเองเจ้าแรกของไทย โดนใจลูกค้าทั้งทน น้ำหนักเบา ออเดอร์เพียบทั้งใน-ต่างประเทศเฉลี่ยยอดขายเดือนละ 2 ล้าน เผยเกิดจากความชื่นชอบส่วนตัวและฝันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ลองผิดลองถูกมาเยอะกว่าจะประสบผลสำเร็จ (adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({}); นายศราวุธ เวชไธสง หรืออ๋า อายุ 37 ปี หนุ่มชาวจังหวัดบุรีรัมย์ จากเด็กที่ชื่นชอบไก่ชน ทุกวันนี้กลายเป็นเจ้าของธุรกิจมีแบรนด์เป็นของตัวเอง หลังจากที่เขาได้ใช้ไอเดียของตัวเองประดิษฐ์กล่องใส่ไก่ชนฟองน้ำหลากหลายสีสันขายเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย และมีแบรนด์เป็นของตัวเอง คือ “DS” หรือ “แดงชัวร์” เรียกได้ว่ากระแสตอบรับจากลูกค้าดีมากจนทำไม่ทัน เพราะกล่องไก่ชนฟองน้ำของเขามีคุณสมบัติที่ตรงใจลูกค้า เพราะนอกจากมีสีสันให้เลือกหลากหลายโดนใจลูกค้าแล้ว ยังมีน้ำหนักเบาเพียง 1.6 กิโลกรัม ทนน้ำทนฝนสามารถล้างทำความสะอาดได้ ทั้งยังช่วยเซฟความปลอดภัยให้ไก่ชนด้วย เพราะวัสดุเป็นฟองน้ำ จะแตกต่างจากกล่องไก่ชนที่ทำจากไม้ที่ค่อนข้างหนัก ไม่สามารถทนแดดฝนได้เหมือนฟองน้ำ อายุการใช้งานก็สั้นกว่า นอกจากจะทำกล่องไก่ชนฟองน้ำแล้ว ยังมีกล่องใส่ไก่แจ้ฟองน้ำ ถาดใส่ยาฟองน้ำ กล่องสนาม และเก้าอี้สนามอีกด้วย นอกจากนั้นยังได้ทำผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำหรับบำรุง และรักษาไก่ชนหลายชนิดอีกด้วย เช่น ยาแก้ช้ำในหลังชน ที่ทำจากใบบัวบก สมุนไพรจีน 10 ชนิด, ยาป้ายปากรักษาเป็นแผลสกัดจากเปลือกแค, ยาถ่ายพยาธิทำจากมะขามเปียกผสมหมาก, สมุนไพรปลาก้างช่อน, สมุนไพรสาบเสือรักษาแผลสด ภายใน 7 วัน ราคาขึ้นอยู่กับขนาดและชนิดของผลิตภัณฑ์รับประกันความปลอดภัยเพราะทำจากสมุนไพร ส่วนกล่องไก่ชนมีให้เลือกหลายสี ได้แก่ สีดำ เทา น้ำเงิน น้ำตาล ชมพู เหลือง แดง และสีส้ม ขายกล่องละ 450 บาท กล่องใส่ไก่แจ้กล่องละ 800 บาท กล่องสนามใส่ยา 300 บาท ถาดใส่ยา 160 บาท เก้าอี้สนาม 160 บาท ปัจจุบันต้องจ้างโรงงานผลิตเพราะทำด้วยมือไม่ทันต่อความต้องการของลูกค้า เพราะมีออเดอร์ส่งขายให้ร้านที่เป็นเครือข่ายในไทย รวมถึงต่างประเทศ เช่น สปป.ลาว มาเลเซีย และอินโดนีเซีย รวมถึงขายผ่านออนไลน์ทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 300 กล่อง นายศราวุธ หรืออ๋า บอกว่า เส้นทางก่อนจะมาเป็นเจ้าของธุรกิจและมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ก็เริ่มจากความชื่นชอบส่วนตัว เพราะชอบไก่ชนมาตั้งแต่อายุประมาณ 11 -12 ปี พอโตขึ้นก็คิดอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง บวกกับเป็นคนที่ชอบคิดและประดิษฐ์ไปเรื่อย แต่กว่าจะมาผลิตกล่องใส่ไก่ชนฟองน้ำ และสมุนไพรสำหรับบำรุง ดูแล รักษาไก่ชน จนมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ก็ลองผิดลองถูกมาเยอะ ตอนแรกก็ทำกันเองในครอบครัวจนได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นวงกว้าง เริ่มทำไม่ทันต่อความต้องการของลูกค้า เพราะกล่องไก่ชนที่ผลิตนอกจากจะมีสีสันหลากหลายให้ลูกค้าเลือกแล้ว ลูกค้ายังชื่นชอบในความทนทานล้างทำความสะอาดได้ น้ำหนักเบา จึงตัดสินใจจ้างโรงงานผลิตจนถึงทุกวันนี้มีออเดอร์ทั้งกล่องไก่ชน กล่องไก่แจ้ เก้าอี้สนาม กล่องสนาม ถาดใส่ยาซึ่งทำจากฟองน้ำ รวมถึงผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำหรับบำรุงรักษาไก่ชน ที่สั่งผ่านร้านเครือข่าย และออนไลน์ ทั้งในไทยและต่างประเทศจำนวนมาก เฉลี่ยยอดขายก็ประมาณเดือนละ 2 ล้านบาท หากใครสนใจสามารถเลือกซื้อได้ที่ร้านลุงอ๋าร์ อุปกรณ์ไก่ ยา อาหารสัตว์ ตั้งอยู่ถนนสายรอบเมือง เส้นบุรีรัมย์-นางรอง ต.ชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ หรือติดต่อสั่งซื้อผ่านเพจเทปพันเดือยไก่ ปลีก-ส่ง และเบอร์ 09-5614-1146
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม 64 ที่กระทรวงยุติธรรม นสพ.ชัย วัชรงค์ นายกสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาไก่พื้นเมืองไทย และตัวแทนพี่น้องวงการไก่ชน เดินทางแสดงความขอบพระคุณ ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กรณีผลักดันให้ทาง คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นำเรื่องผ่านมติคลายล็อก โดยทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้ดำเนินการเร่งด่วน พร้อมกล่าวทักทายพี่น้องที่มาร่วมแสดงความยินดีในครั้งนี้ วันที่ 1 เมษายน 64 จะมีข้อกำหนดในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้แต่ละจังหวัดนำไปปฎิบัติใช้ในข้อกำหนด (adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({}); นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวถึงเรื่องของอาชีพเลี้ยงไก่ชน สำหรับการคลายล๊อคในครั้งนี้ เน้นย้ำมาตรการป้องกันโควิด 19 จะต้องยังคงปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และตนทราปดีว่าไก่ชนสร้างรายได้มากพอสมควรให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ชน มีการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มีต่างประเทศสนใจและนิยมไก่ชนจากไทย อนาคตคงต้องนำไปคุยกันกับอีกหลายกระทรวงสำหรับการหาแนวทางส่งเสริมอาชีพไก่ชนในอนาคต เพราะตนเป็นฝ่ายนโยบาย จึงฝากให้ทุกคนช่วยกันโดยเฉพาะเรื่องออนไลน์ หรือการร่วมกลุ่มจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนไก่ชน ทั้งผลิต ขาย และการขนส่ง และขอให้ทุกคนให้กำลังใจกันและกันและเตรียมพร้อมกับการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงที่มาของการปลดล็อกกีฬาพื้นบ้าน คืนอาชีพแก่พี่น้องชาวไก่ชน หลังจากที่ตนเองได้มีการหารือกับท่านนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับอาชีพเลี้ยงไก่ชนของพี่น้องเกษตรกรให้ฟัง ว่าสามารถสร้างงานสร้างอาชีพกับเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ชนได้อย่างมาก และท่านนายกรัฐมนตรีมีความคิดเห็นในเรื่องนี้ และตัดสินใจเร็วมาก เพราะจะเกิดผลดีกับเกษตรกรที่ทำอาชีพเลี้ยงไก่ชน สามารถสร้างอาชีพให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ชนได้อย่างมาก และบอกให้ดำเนินการได้ทันทีทันที โดยให้ทางผู้วาราชการแต่ละจังหวัด เป็นผู้กำหนดแนวทาง ดำเนินการ และฝากทิ้งท้ายชมเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ชนว่าคนไทยเลี้ยงไก่ชนได้เก่งที่สุดในโลก เพราะมีความพิถีพิถันในการเพาะพัฒนาสายพันธ์เพราะมีฝีมือ "หมอชัย" พร้อมสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาไก่พื้นเมือง และตัวแทนพี่น้องวงการไก่ชน กล่าวขอบคุณท่านนายกฯ ประยุทธ จันโอชา และท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่เข้าใจชาวไก่ชน พยายามผลักดันและให้ข้อมูลต่างๆ จนนำมาสู่การปลดล็อกกีฬาพื้นบ้าน คืนอาชีพแก่พี่น้องชาวไก่ชนในครั้งนี้
หนุ่มเจ้าของฟาร์มไก่ชนใน จ.ปราจีนบุรี เผยเรื่องราวสุดเศร้า หลังมีสุนัขหลุดเข้ามาขย้ำไก่ชนสุดรักตายเกือบ 100 ตัว เสียหายกว่า 2 แสนบาท วอนเจ้าของสุนัขเจรจาชดใช้ หากปล่อยไว้อาจต้องแจ้งความดำเนินคดี (adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({}); เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Nook Mongkon” ได้โพสต์ข้อความลงในโซเชียล เผยให้เห็นซากไก่ชนจำนวนมาก นอนตายกองอยู่รวมกัน หลังโดนสุนัขแอบเข้ามากัดซึ่งนับจำนวนได้เกือบ 100 ตัว โดยมูลค่าความเสียหายกว่า 2 แสนบาท ทั้งนี้ ทางผู้โพสต์อยากให้เจ้าของสุนัขเข้ามาพูดคุยเจรจาตกลงเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น หายไม่พูดคุยจะดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด โดยผู้เสียหายได้ระบุข้อความว่า “กว่าจะสร้างมาลงทุนเกือบเป็นล้านถูกทำลายชั่วพริบตา แค่คนเหี้ยๆ เลี้ยงแล้วไม่มีความรับผิดชอบดูแลค่าเสียหายไม่น้อยกว่า 200,000 ตังกูไม่อยากได้กูเสียดายไก่ ความเสียหายมันเยอะเกินเจ้าของหมาถ้ารู้ตัวห้ามกวนตีนอารมณ์กูเวลาโมโหกูไม่เหมือนใครกูทำได้ทุกอย่างที่ไม่คาดคิด..นักเลงแบบกูไม่เคยระรานคนแต่อย่ามาสร้างความเดือดร้อนให้กู” ล่าสุด วันนี้ (22 มี.ค.) เจ้าของฟาร์มไก่ชนได้ออกมาระบุข้อความอีกว่า “สำหรับคนรักไก่ชนที่เห็นภาพสะเทือนขวัญครั้งนี้ช่วยแชร์เฟสผมให้เยอะๆ เลยนะครับ ผมคิดว่าคุยให้ดูแลสุนัขแต่กลับปล่อยปละละเลยปล่อยให้สุนัขที่ดูแลมากัดลูกไก่ผมอีก ถ้าพี่ชายผมไม่เฝ้าที่ซุ้มคงจะโดนอีกไม่ใช่น้อย นักข่าวช่องไหนสนใจมาทำข่าวได้เลย เมื่อทำลายทรัพย์สินผมถึงขนาดนี้เอาให้สุดๆ กันไปเลย..ฝากช่วยแชร์เยอะๆ นะครับ”