ซากไก่ตายที่เห็นอยู่นี้เป็นของ นางจำลอง ทัพแว่ว อายุ 50 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่พันธุ์พื้นเมือง ในอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ที่ทยอยล้มตายมาแล้ว 3 – 4 วัน เฉลี่ยวันละ 2 – 3 ตัว โดยอาการของไก่แต่ละตัวจะเริ่มซึม กินน้ำเยอะ หน้าดำ แล้วก็ตายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง โดยไม่ทราบสาเหตุ
.jpg)
เช่นเดียวกับเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ในอำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ที่เลี้ยงไก่ชนสายพันธุ์พม่าไว้ 13 ตัว ราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่นบาท เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไก่ที่เลี้ยงไว้ก็มีอาการซึม ยืนนิ่ง คอตก แล้วก็ตายในช่วงเช้าแทบทุกวัน รวมแล้ว 8 ตัว
นางสาวจำลอง อริยะจักร ปศุสัตว์จังหวัดสุโขทัย กล่าวว่าขณะนี้ไก่ของเกษตรกรในจังหวัดสุโขทัย ทยอยตายแล้วกว่า 1,000 ตัว จากการตรวจสอบพบโรคระบาด 2 ชนิด คือ โรคหลอดลมอักเสบ หรือหวัดหน้าบวม และโรคอหิวาต์ไก่สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งไม่ใช่ โรคไข้หวัดนกตามที่เกษตรกรเข้าใจ สาเหตุเกิดจากฝนตกหนักทำให้มีน้ำท่วมขัง จึงเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคในดินและตามแหล่งน้ำขัง

สำหรับวิธีป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้ออหิวาต์ไก่ ปศุสัตว์แนะนำว่าควรเลี้ยงในโรงเรือนหรือกั้นตาข่ายไม่ปล่อยให้เป็ดหรือไก่ออกไปสัมผัสเชื้อ หากฝนตกให้รีบต้อนเข้าเล้า ส่วนตัวไหนติดเชื้อให้รีบแยกออกจากฝูงและให้วัคซีนป้องกันกับตัวที่ยังไม่ติดเชื้อ หากไก่ล้มตายแล้วห้ามโยนทิ้งตามแหล่งน้ำ เพราะจะทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายออกไป และแจ้งผู้ใหญ่บ้านหรือเจ้าหน้าที่ให้ทราบภายใน 12 ชั่วโมง เพื่อหาทางกำจัดอย่างถูกวิธี