เชื่อว่าคนเลี้ยงไก่ชนหลายคน หากให้เอ่ยถึงประสบการณ์ในการเลี้ยงไก่ชนแย่ๆ มาสักหนึ่งเหตุการณ์ หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นไก่ชนหายไปจากเล้า หรือซุ้มฟาร์มแน่นอน หากเป็นไก่ธรรมดาบ้านๆ หายไปสักตัวคงไม่อยากให้เป็นเรื่องบานปลาย แต่หากเป็นไก่ชนตัวรักแล้วหละก็และคุณปล่อยผ่านไปไม่ได้ สิ่งที่ไก่ชนออนไลน์อยากจะนำมาแนะนำสำหรับการปฎิบัติเบื่องต้นสำหรับคนรักไก่ชนอย่างคุณที่ควรปฎิบัติ
ทำประวัติไก่ชน ควรถ่ายรูป "ไก่ชน" ตัวรักของคุณเก็บเอาไว้แล้วทำประวัติ ให้ชัดเจน แข้งขา หน้าตา สีขน สายพันธ์ อายุ หรือตำหนิ ข้อมูลยิ่งเยอะได้ยิ่งดี เพราะสิ่งเหล่านี้มันคือหลักฐานในการติดตามตัว และยืนยันการเป็นเจ้าของที่แท้จริงเมื่อไก่ชนหายหรือถูกขโมยไป การป้องกันเอาไว้คือสิ่งดีที่สุด
แจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน เมื่อเกิดปัญหาขึ้นสิ่งที่ต้องทำ นำหลักฐานที่มีเข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน บ่อยครั้งที่คนเลี้ยงไก่ชนมักจะละเลยข้อนี้ไป เพราะกลัวหรือไม่อยากให้เรื่องราวบานปลายใหญ่โต แต่หากเป็นไก่ชนตัวรักและมีมูลค่ามากแล้วหละก็แนะนำว่าให้ไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ดีที่สุดครับ เพราะข้อดีของการลงบันทึกประจำวันคือเราจะมีหลักฐาน สำหรับยืนยันว่าเป็นเจ้าของไก่ชนตัวจริงและเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าไก่ชนถูกขโมยออกไปจากซุ้มฟาร์มเมื่อได้ เวลาไหน ในกรณีที่เราตามไก่ชนเจอและพบว่า "ไก่ชน" ตัวรักปะปนอยู่ร่วมกับไก่ชนคนอื่นในฟาร์มหรือเล้าไก่ของคนอื่นอาจเป็นเพราะว่าไก่ชนหลงเดินมาเอง หรือถูกขโมยมาก็ดี
การปฎิบัติเพื่อไม่ให้ถูกโดนฟ้องสำหรับกรณีที่คุณประเมินแล้วว่าเจ้าของบ้านหรือฟาร์ม หากคุยแล้วอาจเป็นเรื่องราวใหญ่โตหรือแนวโน้มบานปลายมีปัญหา แนะนำว่าให้นำเอกสารหลักฐานที่ระบุว่าคุณเป็นเจ้าของตัวจริง และบันทึกประจำวันจากการแจ้งความ พร้อมเจ้าหน้าที่ หรือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อมาเป็นพยานไปยังจุดที่พบ และแสดงความเป็นเจ้าของไก่ชนตัวนั้น ข้อแนะนำที่อยากฟากเอาเตือนเอาไว้ อย่านำไก่ชนกลับมาโดยพละการเด็จขาด เพราะอาจโดนกล่าวหาว่าเป็นขโมย หรือ "บุกลุกเข้าไปยังสถานที่ไม่ได้รับอนุญาติได้" แม้ว่าไก่ชนตัวนั้นคุณจะเป็นเจ้าของตัวจริง ควรมีการพูดคุยหรือสอบถามจากเจ้าของฟาร์มเพื่อความชัดเจนก่อนจะดีที่สุด แม้ว่าไก่ชนตัวรักของเราจะอยู่ในสถานที่หรือเล้าฟาร์มคนอื่น แต่หากไม่มีหลักฐานชัดเจนและระบุว่าเขาไปขโมยไก่ชนของเรามา ก็จะกล่าวหาไม่ได้ เดี๋ยวจะโดนฟ้องกลับข้อหาหมิ่นประมาทได้เช่นกัน
แต่หากเป็นเหตุซึ่งหน้า หาเอกสารไม่ทันและมั่นใจว่าเป็นไก่ชนของเราจริงๆ ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่หรือตำรวจสายตรวจเข้าตรวจสอบก่อน จากนั้นจึงนำเอกสารมายืนยันความเป็นเจ้าของทีหลังก็ได้ แต่ต้องมั่นใจว่าใช่จริงๆ เพราะหากไม่ใช่ขึ้นมาจะโดนแจ้งข้อหาหมิ่นประมาท หรือแจ้งความเท็จได้ ทั้งหมดที่นำมาบอกกล่าวกัน ล้วนแต่เป็นประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้นจริง และเป็นข้อปฎิบัติที่ควรรู้สำหรับคนเลี้ยงไก่ชนทุกคน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับแฟนไก่ชนออนไลน์ทุกท่าน ถ้ารู้สึกว่ามีประโยชน์ก็สามารถแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ ที่คุณหวังดีให้ได้อ่านกันได้ โชคดีมีไก่เก่งกันทุกคนครับ
ข้อมูลภาพ : โชคสันติฟาร์ม