คนเลี้ยงไก่ชนกับเสียงสะท้อนเมื่อตอนชนล้าน มุมมองแนวคิดที่อยากให้สนามชนไก่รักษามาตรฐานดีๆ ร่วมกัน : ไก่ชนออนไลน์
คนเลี้ยงไก่ชนกับเสียงสะท้อนเมื่อตอนชนล้าน มุมมองแนวคิดที่อยากให้สนามชนไก่รักษามาตรฐานดีๆ ร่วมกัน
สนามชนไก่ไม่ว่าจะมาตรฐานหรือสนามบ่อนป่าก็จะประกอบไปด้วยกลุ่มคนอยู่ 3 กลุ่มหลัก ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันนั่นคือ เจ้าของสนาม, เจ้าของไก่ชน, และเซียนไก่ บางคนอาจจะเป็นทั้งสามกลุ่มเลยก็มี วันนี้ไก่ชนออนไลน์อยากนำเสนอแง่คิดอีกมุม ซึ่งเป็นเสียงสะทอน มุมมองความคิดจากชาวไก่ชนที่สงสัยและอยากเห็นมาตรฐานใหม่เกิดขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ติดตามไก่ชนเงินล้านล่าสุดสิ่งที่ได้เห็นและดูไม่สนุกคือ “เจ้าของสนามปล่อยคนที่มีส่วนได้เสียลงไปในสนามตอนไก่ชนกัน?” ซึ่งหากเราลองมองแบบเป็นกลางๆ ก็น่าคิดตามว่าไก่บางตัวอาจเสียเปรียบในจุดนี้ได้เช่นกัน
“สนามชนไก่” จึงควรให้ความสำคัญและผลักดันเรื่องยกระดับมาตรฐานการชนไก่ให้เที่ยบเท่ากับกีฬาต่างๆ ที่มีกฏกติกามาตรฐาน กำหนดไว้ร่วมกันชัดเจน ตัวอย่างกีฬามวยไทย ซึ่งหากเราลองมองเรื่องกฏกติกาในกีฬาประเภทนี้จะห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นไปบนสังเวียนการชก ยกเว้นกรรมการและพี่เลี้ยงนักมวยตอนพักยกเท่านั้น ซึ่งก็ชัดเจนในกฏกติกา และรักษาความเป็นธรรมรวมถึงเสน่ห์ ของเกมกีฬามวยเอาไว้ ลองคิดเล่นๆ กันดูครับ หากบนเวทีมวยมีเซียนมวยขึ้นไปกันเต็มสังเวียนการชกจะเป็นยังไง นักมวยคงชกไม่ออกแน่ๆ ครับ เพราะตื่นกลัวเซียนมวยที่กรูกันไปซ้ายที ไปขวาทีคงดูแปลกๆ พิลึก
กลับมาที่กีฬาไก่ชนเรา แน่นอนครับว่ากีฬาไก่ชนเรื่องของสนามไม่มีกฏกติกากำหนดไว้ชัดเจนร่วมกันทุกสนาม ขึ้นอยู่กับเจ้าของสนาม หรือนายสนามว่าจะเคร่งครัดกฏระเบียบแค่ไหน บางสนามบางพื้นที่ก็คงบอกว่านี้คือประเพณี เขาเป็นแบบนี้มานานแล้วจะเปลี่ยนทำไม จะมีก็แต่สนามใหญ่ๆ ที่มาตรฐานระดับประเทศ อยากนำมายกตัวอย่างให้เห็นกันอย่าง "สนามไก่ชนเทิดไท" กับ "สนามไก่ชนมหาลาภ" เท่านั้น ที่รักษามาตรฐานของสนามชนไก่ได้ค่อนข้างดี จึงทำให้เจ้าของซุ้มฟาร์มต่างๆ อยากนำไก่มาชนอยู่ไม่ขาด เพราะมาตรฐาน และการตัดสินที่เป็นธรรมทุกฝาย ย้ำว่าทุกฝ่ายนะครับ
เรื่องที่สนามชนไก่คิดว่าไม่สำคัญ แต่บางทีกำลังมองข้ามสิ่งสำคัญไป อย่างที่บอกแต่ต้น กีฬาไก่ชน ประกอบด้วยคนสามกลุ่มที่สร้างให้เกิดรายได้ ขึ้นมา คือเจ้าของสนาม เจ้าของไก่ และนักเล่นพนันไก่ชน รายได้หลักของสนามชนไก่จะมาจากค่าน้ำ (เปอร์เซนจากเงินเดิมพัน), ค่าบัตรเข้าชม (จากนักพนัน หรือคนเข้าชม), ค่าโฆษณาจากสปอนเชอร์ ,ค่าเช้าพื้นที่จากร้านค้า, หรือแม้แต่ค่าถ่ายทอดสด หากบริหารจัดการได้ดีก็อาจมีรายได้ตรงจุดนี้ได้เช่นกัน
แต่หากสนามชนไก่ไม่ให้ความสำคัญในการจัดการส่วนนี้เลยปล่อยให้เป็นไปตามแบบเก่า แบบผูกขาดแน่นอนอาจไม่เห็นผลกระทบในทันที แต่หากมีสิ่งที่มันดีกว่าเกิดขึ้น ทุกคนก็พร้อมจะไปทันทีเช่นกัน สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอาจคาดเด่าไม่ได้ แต่เจ้าของสนามคงไม่อยากเห็น ซุ้มไก่ชน หรือเจ้าของไก่ย้ายไปชนที่อื่นที่จัดการได้ดีกว่าแน่ๆ และรายได้ของสนามก็จะเริ่มลดลงตาม ฉะนั้นทั้งเจ้าของสนามไก่ชนหรือเซียนไก่ชนทั้งหลายจึงควรตระหนักถึงจุดร่วมกัน เพื่อวงการไก่ชนยั่งยืน ทุกคนมีสิทธิคิดต่าง ทุกคนมีสิทธิเห็นต่าง เพราะทุกความต่างเราจะหาทางออกร่วมกัน (555 ขอยืมประโยคฮิตมาใช้)) เป็นอีกมุมมองก็เพื่อวงการไก่ชนเติบโตไปด้วยกัน ยังไงก็เป็นแค่ข้อคิดเห็นที่อยากฝากช่วยๆ กันทุกคน โชคดีมีไก่เก่งกันทุกคนครับ